สรุปดราม่าโชคทวีVSมาดามแป้งแห่ง แพท สเตเดี้ยม

สรุปดราม่าโชคทวีVSมาดามแป้งแห่ง แพท สเตเดี้ยม

สรุปดราม่าโชคทวีVSมาดามแป้งแห่ง แพท สเตเดี้ยม


 

ประเด็นที่1 ปลดฟ้าผ่า โค้ชโชค โชคทวี พรหมรัตน์

           เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 เกิดข่าวใหญ่ช็อกวงการฟุตบอลไทยเมื่อมีข่าวปลดโค้ชโชค โชคทวี พรหมรัตน์  แบบสายฟ้าแลบโดยทางด้านโค้ชโชค ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่โดนปลดเพราะทางสโมสรต้องการลดค่าใช้จ่ายในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ทำให้ไม่มีฟุตบอลเตะซึ่งทางด้านโค้ชโชคก็เข้าใจในสาเหตุนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะจบกันได้ด้วยดีแต่ทว่ามีระเบิดลูกที่สองออกมาทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าต่อมา

ประเด็นที่2 ถูกแทรกแซงในการทำงานแบบนี้จะมีโค้ชไว้ทำไม

            ก็อย่างที่พูดไปเมื่อตอนต้นว่าเรื่องนี้ดูเมื่อจบกันไปได้ด้วยดีทั้งสองฝ่ายแต่ว่าช่วงค่ำของวันที่ 28 มีนาคม ทางด้านโค้ชโชคได้ไปออกเพจฟุตบอลรายการนึงซึ่งเจ้าตัวได้พูดเปิดใจแบบหมดเปลือกว่า สาเหตุที่ต้องออกจากทีม เพราะขัดใจมาดามแป้งในเรื่องการจัดตัวผู้เล่น และร่ายยาวอีกว่า อันนี้เราก็ต้องพูดตรง ๆ มันอยู่ที่ผลงาน ถ้าเราจัดตัวไปแล้ว แล้วก็พลาด เราก็รับผิดชอบ แต่เวลาซ้อม นักเตะทุกคนเรารู้อยู่แล้ว ว่าคนไหนเล่นยังไง แต่ถ้าจะมาเปลี่ยน แล้วผมจะไปพูดกับนักบอลได้ยังไง อันนี้คือที่สุด ผมเอาตัวนักเตะเป็นหลัก คนไหนเล่นได้ คนไหนเล่นไม่ได้ ไม่งั้นจะมีโค้ชไว้ทำไม ทำให้นี่เป็นระเบิดตูมใหญ่ที่ทางโชคทวีได้ทิ้งเอาไว้ทำให้ร้อนไปถึงต้นสังกัดอย่าง การท่าเรือ เอฟซี ต้องรีบออกมาชี้แจงในประเด็นนี้ทันที

ประเด็นที่3 มาดามแป้ง ร่ายยาวถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น

            เมื่อมาดามแป้ง ได้ยินข่าวที่โค้ชโชคทิ้งระเบิดตูมใหญ่เอาไว้ก็ไม่รอช้า ได้ออกมาแถลงข่าวผ่านทางเฟสบุ๊ค การท่าเรือ เอฟซี ถึงประเด็นดราม่าโดยสรุปใจความสั้นๆดังนี้ ในวันนี้ พี่น้องแฟนบอลจำนวนมากตั้งคำถามกับการเปลี่ยนแปลงโค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ ยอมรับว่า เรามีแผนจะเปลี่ยนแปลงมา 3 เดือนแล้ว โดยการเปลี่ยนโค้ชสำหรับแป้งมีเหตุผลเสมอ ซึ่งมันไม่ใช่แค่บอลแพ้หรือตารางคะแนนเท่านั้น เพราะแป้งมองทุกปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบของการทำงาน การเป็นผู้นำให้แก่ทีม ทั้งนักกีฬาและสตาฟโค้ช การสร้างระบบการเล่นที่เป็นทีมเวิร์คมากกว่าการอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น การสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในทีมเพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย ที่สำคัญคือการเรียนรู้และปรับตัวทำงานให้เข้ากับคนส่วนใหญ่ เพราะนั่นจะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และแป้งรับฟังทุกคน เพราะนักฟุตบอลก็เป็นลูกของแป้ง ทีมงานก็เป็นเหมือนแขนขาที่พาเราไปถึงเป้าหมาย ดังนั้น ที่ผ่านมาแป้งฟังเสียงของทุกคนในทีมเสมอ เพื่อประกอบการตัดสินใจ

การทำงานในวงการนี้ แป้งยังยึดหลัก “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” วันนี้ก็ยังมีแต่คำขอบคุณที่จริงใจ ให้แก่โชคทวี ที่เข้ามาช่วยงานแป้งตลอด 8 เดือน ขอบคุณผลงานชิ้นสำคัญที่ฝากไว้ให้คนท่าเรือได้ภาคภูมิใจ กับ ถ้วยเอฟเอคัพ 2019 ที่สานงานต่อจากโค้ชจเด็จ มีลาภ จึงต้องถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกคน

ในประเด็นเรื่องการแทรกแซงการทำงานของโค้ชนั้น แป้งขอพูดตามตรงว่าไม่มีประธานสโมสรคนไหนหรอกที่ไม่แทรกแซง ถามว่า…คำว่าแทรกแซงนั้นหมายถึงอะไร ในเมื่อหน้าที่ของประธานสโมสรต้องดูแลทุกๆ อย่างของทีม และต้องร่วมตัดสินใจในทุกเรื่องเพื่อให้ทีมเดินหน้าสู่เป้าหมาย เพราะทุกเรื่องมันเกี่ยวข้องกันทั้งหมด สารทุกข์สุขดิบของคนในทีมทุกคน ร่างกาย จิตใจ ประธานสโมสรคนนี้ทำหมด หากจะบอกว่าแทรกแซงแป้งก็คงแทรกแซงมาตั้งแต่วันแรกที่โชคทวีเข้ามา ที่แพท สเตเดี้ยม วันที่ 22 กรกฎาคม 2562 จนถึงวันสุดท้ายที่โชคทวีคุมทีม แต่ถ้าคิดว่าไม่แทรกแซงแต่เป็นการทำงานร่วมกัน แป้งก็ทำเช่นนั้นมาตั้งแต่วันแรก

 “ขอขอบคุณ” ที่ได้ร่วมงานกันมาตลอด และขอให้โชคทวีโชคดีในอนาคตต่อไป เชื่อว่าแฟนท่าเรือทุกคน รวมถึงแฟนบอลทั้งประเทศจะเข้าใจแป้ง และแป้งยังภูมิใจเสมอที่แป้งได้ยืนอยู่ในวงการของสุภาพบุรุษลูกหนัง ที่ทุกคนยึดถือสปิริต และน้ำใจนักกีฬาเป็นที่ตั้งนับว่าเป็นการจบดราม่าเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ

Comments

Share Tweet Line