ศิลปะแห่งความมืด คือตัวตน แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ

ศิลปะแห่งความมืด คือตัวตน แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ

ผมทำงานมาเยอะมาก  แต่งานศิลปะเป็นงานที่รัก พ่อคือคนแรกที่สอนให้วาดรูป แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ  เปิดปากสนทนา ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นเคย  ขณะกล่าวทักทายผู้คนที่เข้ามาดูงานแสดง นิทรรศการภาพเขียนสีน้ำมัน ครั้งแรกของเขา ที่แกลเลอรี Woof Pack Bangkok 


ใครจะคิดว่า เด็กหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากบทบาท “ปกป้อง” แก๊งค์หินกลิ้ง หนึ่งในนักแสดงโทรทัศน์สุดฮิตยุค 2000  “กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้” จะเป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านการวาดภาพ และสามารถถ่ายทอดออกมาได้ งดงาม ดุดัน บ่งบอกถึงจินตนาการ และความฝัน ได้อย่างมีเรื่องราว 

ภาพวาดแต่ละช่วงวัยหลากสไตล์ ถูกหยิบยกมาจัดแสดง 39 ภาพ โดยแม่งานใหญ่ที่คัดเลือกภาพ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน น้องแจม - กานต์ จาติกวณิช น้องสาวคนสวย และลูกสาวสุดหวงของ กรณ์ – วรกร จาติกวณิช ที่เพิ่งจะหอบปริญญาตรี วรรณคดีอังกฤษ ที่มหาวิทยาลัยเดอรัม ประเทศอังกฤษ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ให้ชื่นใจหมาด ๆ และได้ทำงานร่วมกับ เจย์ สแปนเซอร์ เจ้าของ Woof Pack แกลเลรี ในฐานะเป็น Arts Curator ที่คัดเลือกงานศิลปะโชว์ในแกลลอรี่ เธอจึงได้คัดเลือกภาพภาพสีน้ำมันของพี่ชายมาจัดแสดงใน theme “ Out of Darkness “ ที่อธิบายถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างศิลปะกับความมืด  สื่อให้เห็นถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด จินตนาการ ความเหงา ผิดหวัง ที่ผู้ถ่ายทอดเลือกใช้ศิลปะในการเยียวยา  

สำหรับผลงานที่จัดแสดงมีทั้งหมด 39 ภาพ เป็นภาพที่ “แต๊งค์” วาดในช่วงวัยที่ต่างกัน อารมณ์แต่ละภาพจึงออกมาหลากสไตล์ มีทั้งภาพการ์ตูนที่วาดไว้ตั้งแต่เด็ก ภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เจ้าตัวบอกว่าวาดไว้นานแล้วและรักมาก และภาพอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่วาดช่วงวิกฤตโควิด 19 โดยเขาคัดเลือกบางภาพไปเปิดประมูลเพื่อนำรายได้หลังค่าใช้จ่าย บริจาคเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ด้วย 

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง ครอบครัวมากันพร้อมหน้า ทั้งคุณแม่คนสวย เจ- วรกร จาติกวณิช ,กรณ์ จาติกวณิช, ติงค์- พันธิตร มหาเปารยะ, น้องแจม ที่คอยดูแลตลอดทั้งงาน นอกจากนี้ยังมี แฟนสาว เพื่อนฝูง เหล่าบรรดาศิลปิน และผู้ชื่นชอบงานศิลปะ มาให้กำลังใจกันเนืองแน่น หนึ่งในนั้นคือ “ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี” ศิลปินวาดภาพพรอเทรต ชื่อดังอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งแตงค์บอกว่า ได้มีโอกาสไปเรียนวาดภาพกับ “ครูศักดิ์วุฒิ” ด้วยเพื่อเพิ่มทักษะที่ตัวเองมีอยู่แล้ว ให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้น  

“จริงๆ แล้วครูคนแรกของผมคือ คุณพ่อ เพราะท่านเป็นคนสอนวาดรูปเป็นคนแรก หลังจากนั้นผมก็วาดมาเรื่อย ๆ เวลามีกิจกรรมกลุ่มในวัยเด็ก ผมก็มักจะเป็นคนวาดภาพประกอบรายงาน ศิลปะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม แม้ผมจะทำอะไรมามากมาย ทั้งนักแสดง พิธีกร แต่ศิลปะคืองานที่ผมชอบและดูเป็นตัวผมที่สุด สไตล์การวาดภาพของผมมันก็จะสไตล์มืด ๆ เพราะผมชอบเล่นคอนทราสต์ เน้นแสงไปที่ตัวซับเจ็กต์ ตัวแบ็กกราวนฺด์จะมืด ส่วนเวลาในการวาดภาพก็จะต่างกัน บางภาพใช้เวลาหลายเดือน บางภาพก็ใช้เวลาแค่คืนเดียว เป็นภาพพรอเทรตแบบดิบ ๆ ที่ผมชอบด้วย” 

จากคำบอกเล่า สู่การพิจารณาอารมณ์ภาพแต่ละภาพ ที่บ่งบอกถึงบุคลิกและตัวตนของแต๊งค์ได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่สีที่ใช้ ส่วนใหญ่จะเอิร์ธโทน เพราะเป็นตัวแทนของ ความมืด จินตนาการของภาพอธิบายได้ถึง ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของความสัมพันธ์ที่ผันผวน อดีต ความรัก ความหลัง ความเจ็บปวด ปัญหาสุขภาพ ความพยายามในการฟื้นฟู และยังสะท้อนความหวัง จากภาพแสงแห่งความมืด ซึ่งแตงค์ยอมรับว่า ความมืดนอกจากจะเป็นพื้นฐานของงานศิลปะของเขาแล้ว ยังเป็นสะท้อนความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจนด้วย

“ความมืด ไม่ได้เป็นอันตรายต่อใค เราทุกคนพบความมืดตั้งแต่ก่อนเกิดและหลังความตาย เราพบเจอมันทุกคืน รวมถึงช่วงเวลาแห่งความเศร้า ความไม่แน่นอนของชีวิต แม้บางครั้งความมืดอาจจะดูน่ากลัว แต่มันก็แฝงไปด้วยความงดงาม ความโรแมนติก ความมืดสามารถระบายสีได้ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้เช่นเดียวกัน” และแน่นอนว่าผลงานภาพในครั้งนี้ อธิบายห้วงอารมณ์ ความรู้สึกของผู้ถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี 

ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะต้องบอกว่าพลาดไม่ได้ งานแสดงจะมีไปจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ณ แกลเลอรี่ Woof Pack Bangkok ศาลาแดง ซอย 1

Comments

Share Tweet Line