เต๋า สมชาย ส่งกำลังใจให้นิ้ง กุลสตรี ขอพรให้หายเร็ว ๆ

เต๋า สมชาย ห่วงเพื่อน นิ้ง กุลสตรี ขอส่งกำลังใจผ่านสื่อ ไม่ได้มีคอนเทคติดต่อ แต่ได้ทราบข่าวบ้าง จริง ๆ ตอนทำงานอาร์เอสด้วยกันสนิทกันหมด รับเห็นล่าสุดอาการทรุดเห็นพี่ทัช ไปร่วมบริจารเลือด เพราะกรุ๊ปเลือดเดียวกัน ส่วนตัวบริจาคให้ไม่ได้ เหตุเพราะเป็นไวรัสบี ตั้งแต่ 2544 ช่วงเป็นทหาร เลยไม่สามารถบริจาคเลือดได้ เลยภาวนาขอพรให้เพื่อนหายโดยเร็ว ๆ เชื่อกำลังใจสำคัญ

เป็นอีกหนึ่งข่าวคราวที่หลายๆคนอ่านแล้วมีความรู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย สำหรับข่าวของอดีตนางเอกชื่อดังนิ้ง กุลสตรี ที่ป่วยจากโรคแทรกซ้อนของโรคไขกระดูกบกพร่อง และตอนนี้รักษาตัวอยู่ใรโรงพยาบาล ก่อนเจ้าตัวจะโพสต์ตัดพ้อว่าเริ่มท้อแล้ว ล่าสุดได้เจออีกหนึ่งคนที่เป็นเพื่อนร่วมค่ายยุค90 กับสาวนิ้งอย่างหนุ่มเต๋า สมชาย เข็มกลัด เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

“พอทราบครับ จริงๆผมทราบเรื่องว่านิ้งป่วยมาสักพักแล้ว เพราะตอนที่ขึ้นเครื่องก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังถามหานิ้งกับน้อง ๆที่แอร์เอเชียอยู่เลย ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม เขาบอกว่านิ้งลาออกไปนานแล้ว เพราะป่วย ก็รู้ตั้งแต่ตอนนั้น ตอนหลังก็มาทราบข่าวเมื่อได้เห็นภาพที่สื่อนำเสนอออกมา แต่ผมไม่ได้มีคอนแทคในการติดต่อส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทร ไลน์ หรือโซเชียลอะไรต่าง ๆ เวลาที่มีใครไปเจอเขาก็จะฝากบอกว่าให้หายไวไว จริง ๆ ตอนทำงานร่วมกันอยู่ที่อาร์เอสเราสนิทกันหมด ไม่ว่าจะเป็นผม นิ้ง พี่ทัช ต้องบอกว่ายุค 90 เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว เราอยู่กันเหมือนครอบครัว แบบพี่น้อง มีอะไรถามสารทุกข์สุกดิบ ช่วยเหลือกันตลอด คนโน้นมีงานนี้ คนนั้นมีงานนี้ตอนหลังด้วยระยะเวลาของชีวิต การเติบโตของแต่ละคน ก็จะแยกกันทำหน้าที่ของตัวเอง เมื่อปีที่แล้วยังเจอกันเขายังเป็นแอร์ และถ่ายรูปเล่นกันอยู่เลย ยังคุยกับเขาว่าเธอดูดีมากเลย เมื่อเช้าผมได้เห็นข่าวว่าว่าพี่ทัชไปบริจาคเลือดให้กับนิ้ง เพราะเขากรุ๊ปเลือดเดียวกัน แต่ผมเป็นไวรัสบีที่ตับชนิดที่อยู่กับตัวเอง ไม่สามารถบริจาคเลือดได้ เพราะคนที่ได้เลือดจากเราจะติดไวรัสไปด้วย แล้วเลือดผมก็คนละกรุ๊ปกับของนิ้ง จริง ๆตอนนี้ให้กำลังใจผ่านสื่อ อยากให้เขาดีวันดีคืน เขาเป็นเพื่อนเรา เราทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เจอกันสนิทกัน ทำงานด้วยกันตลอด เวลามีงานของค่ายก็จะมาเจอกัน หลังเห็นถาพที่เขาป่วยมองว่ามันเป็นเรื่องชีวิตของแต่ละคน ที่จะต้องต่อสู้ วันนี้สิ่งที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามผมว่ากำลังใจมาเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าเรามีกำลังใจให้เขา เขามีกำลังใจ หรือมีพลังเพิ่มขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้น อย่างวันนี้เราไปทำบุญที่วัดก็สวดมนต์ ขอพรอยากจะให้เพื่อนเราหายไวไว ดีขึ้นแล้วก็ดีขึ้น ขอให้ทุกคนที่เรารักมีความสุข แคล้วคลาดปลอดภัยสุดท้ายอยากให้พระคุ้มครองเขาเยอะๆ”

ด้านถามถึงเจ้าตัว “อย่างช่วงนี้มีโควิท-19ผมดูแลตัวเองอยู่แล้ว เพราะผมมีลูกเล็ก สิ่งสำคัญคือเราต้องดูแลตัวเอง ผมออกไปถ่ายละครมาเดือนกว่าแล้ว ที่กองก็จะอยู่กันแบบนิว นอร์มอล มีหน้ากาก มีเฟสชิล มีแอลกอฮอล์ เวลาทานข้าวจะมีถาดหลุมเหมือนนักเรียน จะแยกเป็นของใครของเรา ภรรยาผมซื้อส่วนตัวให้ ของกองถ่ายเขาก็จะมีให้นักแสดง อย่างเรื่องของไวรัสตับอักเสบบี ผมเป็นตั้งแต่ปี 2544 แล้ว ซึ่งประสบอุบัติเหตุแล้วต้องผ่าตัดที่แขน ตอนนั้นเสียเลือดเยอะแล้วผมต้องให้เลือด และรู้สึกผิดปกติกับร่างกาย เลยไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบี วันนี้ครอบครัวผมตรวจหมด ก็ไม่ได้ติดกับใคร แค่บริจาคเลือดไม่ได้ แต่ก็ทำอย่างอื่นได้ อย่างโควิด-19 ผมก็ไปฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อตามที่ต่าง ๆ ไปแจกถุงยังชีพ แจกอาหารตามชุมชนต่างๆ สุขภาพต้องตรวจทุกปีอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างก็เท่าเดิมครับ คุณหมอพูดน่ารักมาก ก็อยู่เป็นเพื่อนกัน แต่ปริมาณเชื้อเท่าเดิมกับปี 2544 สิ่งสำคัญผมออกกำลังกายอาทิตย์นึง 2-3 ครั้ง เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว อย่างที่บอกลูกเราเล็ก ก็อยากมีสุขภาพดีอยู่กับลูกไปนาน ๆ วันนี้ลูก 9 ขวบ อีก 6 ปี เขาอายุ 15 ผมก็อยากลงไปเตะฟุตบอลกับลูกได้ ไม่ใช่วันนึงเขาอายุ 15 หรือ 20 แล้วต้องมาเข็นรถเข็นให้เรา ก็แล้วแต่วิธีของแต่ละบุคคล เราเป็นนักกีฬาอยู่แล้ว การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ เราทำงานเยอะ ถ่ายหนังถ่ายละคร ผมว่าสุขภาพต้องมาที่หนึ่งครับ”