เอ๋ เชิญยิ้ม เล่าชีวิตวันที่เคยไม่มีเงินไม่มีงาน พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าหากินกับผี

เอ๋ เชิญยิ้ม เล่าชีวิตวันที่เคยไม่มีเงินไม่มีงาน  พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าหากินกับผี
    ยืดอกยอมรับแบบแมนๆเลยว่าเคยเยอะ เลือกรับงาน หยิ่ง ไม่สนหน้าใคร สำหรับ เอ๋ เชิญยิ้ม ที่ได้มาเปิดใจในรายการ                ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ว่าครั้งหนึ่งเคยลืมตัว จนกระทั่งเมื่อชีวิตได้ถึงจุดตกที่สุดไม่มีเงินไม่มีงานจึงทำให้รู้สึกตัวว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน ดังขึ้นได้ แต่ก็ลงได้ ตั้งแต่นั้นมา เจ้าตัว เลยหันหน้าเพิ่งธรรมะจนเข้าใจ เลยตั้งใจเปิดเพจ สัปเหร่อเจอผี ขึ้นเพื่อแฝงคำสอนดีๆให้ทุกคนที่เข้ามาชมได้รับ พร้อมกับเคลียร์ประเด็นใช้ผีหากิน

 


เอ๋ เชิญยิ้ม : สัปเหร่อเจอผี ที่เกิดขึ้นได้คือ ผมขอเท้าความก่อนคือ เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดถึงเรื่องธรรมะเลยเพราะว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับคาเฟ่ แสง สี เสียง ตลอด เราใช้ชีวิตอยู่ในช่วงกลางคืนตลอด แล้วคือ ละครของเราคือรายได้ประมาณหนึ่งที่อยู่ได้ ตอนนี้ผมเชื่อคำหนึ่ง ขึ้นอย่าหลง ลงอย่าท้อ พอมาได้เป็นตลกดารา พอเงินมันได้ 2 อัพต่อเดือน เราเริ่มหยิ่งมองไม่เห็นหน้าใคร พองานไม่ได้เรทที่ต้องการเขาให้เรท 15 นาที เจ็ดพันบาท ไม่เอา (คือตอนโน้นนะครับ) ตอนนั้นเราคิดผิดคิดว่างานนี้ มั่นคงและถาวรสำหรับเรา เราอยู่ตรงนี้ พอเราดังเราไม่ได้ง้อใคร ไม่เห็นหัวใคร หมิ่นเงินน้อย บางทีไปสาย ไม่สนใจคนอื่น 

เอ๋ เชิญยิ้ม : พอมาวันหนึ่งเราตก ต้องมาขายน้ำส้ม ตามงานวัด ใช่ครับ น้ำส้มคั้น น้ำส้มขวด

เอ๋ เชิญยิ้ม : เพราะตอนที่ผมซื้อบ้านใหม่ๆ มีอาจารย์มาทัก เขาบอกว่าเดี๋ยวไม่นานเองจะล่วงนะ เพราะ เจ้ากรรมนายเวร เขาหาเองเจอแล้ว ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยเชื่อ อาจารย์เขายังบอกต่ออีกว่า เองต้องอดทนนะ แล้วลูกทำอะไรผิดเองต้องให้อภัยลูกนะ เราก็คิดว่าลูกเราเป็นผู้ชาย จะติดคุกติดยาหรือเปล่า ที่ทำให้เราเสียใจ อาจารย์เขาก็บอกอีกว่า เอ๋ จะมีเทพจีน ช่วยเหลือ เอ๋ จะได้ดีเพราะดวงวิญญาณนะ ตอนนั้นผมขำเลย 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตอนนั้น เขาบอก 6 เรื่อง ที่เขาบอกผมมานะ ผมนั่งขำเลย ผมยังบอกอาจารย์เลยว่า อาจารย์ผมไม่ใช่ปอบนะ ผมเป็นตลก ผมไม่เกี่ยวอะไรกับผีเลยได้ยังไง แล้วพอผ่านไปภายใน 1 ปี  ทุกอย่างค่อยๆเกิด ผ่านใน 1 เดือน ผมไม่มีเลยงานเลย แต่ผมคิดว่าเรามีเงินเก็บอยู่  ผมก็ยังคิดปลอบใจตัวเองดาราเดี๋ยวก็มีงานเข้ามา แต่ไม่มีช่องไหนติดต่อผมเลย ผมโทรไปของานเขา เขาก็ไม่รับโทรศัพท์ผม ผมการเงินของเราก็เริ่มที่จะไม่มีล่ะ ผมให้ภรรยาผมทำนมเหนียวหนึบขายก็เจ้ง ผมก็รับน้ำส้มมาขายขวดล่ะ 15 บาท ผมก็เอามาขาย 35 บาท แล้วเอามาติดสติ๊กเกอร์ตัวเอง ช่วงนั้นผมได้ที่หน้าวัดก็เอาไปตั้งขาย ขายดีเลยครับ จากที่ผมอาย เพราะมีคนมาถามผมว่า เดี๋ยวนี้ไม่เห็นออกทีวีเลย มานั่งขายน้ำส้มแล้วเหรอ ตอนนั้นเราคิดว่าเรามองมาที่ลูกเรา อายก็ไม่สนใจ

 

ถาม รายได้ตอนนั้น เพียงพอกับรายจ่ายไหม เพราะเพิ่งซื้อบ้าน 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ผมเริ่มประนอมหนี้ส่งบ้าน เดือนละ 27,000 บาท เหลือเดือนละหกพัน รถที่เคยส่งเดือนละ 18,000 บาท ก็เอาเข้าไฟแนนซ์ใหม่ เหลือเดือนละแค่ 5,900 บาท ไม่มีเงินจ่ายเขา เพราะเราได้อาทิตย์หนึ่ง ขายได้เหลือพันกว่าบาท เท่ากับหนึ่งเดือนผมได้เงินเดือน 8,000 บาทต่อเดือน ตอนนั้นผมทำสัปเหร่อ เดอะ ซีรีส์ด้วย ทำให้ทุกคนได้ดูเลยครับ ว่าคนเราเมื่อตก ตกถึงขนาดไหน ให้กำลังใจที่ร่วงเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไม่มีเงินเลย แต่ผมมีโทรศัพท์ผมเอาไปขายได้เงินมาแค่ 1,500 บาท ตอนนั้นผมตกงานอยู่ 1 ปีเลย ภรรยาผมบอกว่ากลับไปอยู่ต่างจังหวัดด้วยกันไหม แต่เราคิดว่าอยากให้เขากลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัดก่อน 

 

 ถาม คือ ตรงนี้เลยใช่ไหมเลยทำให้เราเห็นธรรมะเลยอยากให้เราทำรายการธรรมะ

เอ๋ เชิญยิ้ม :  ช่วงนั้นผมนั่งฟังท่าน ว. บ่อย ผมฟังสัจธรรมของชีวิตคนเราเมื่อถึงจุดสุดจริงๆ ความอดทนจะเกิดขึ้น เราจะเกิดเห็นอะไรหลายๆอย่าง เมื่อเราถึงจุดสุดๆ เราก็เริ่มมองเริ่มฟังเรื่อยๆ เราก็นับถือพ่อแก่ด้วย ไปไหว้ท่านแล้วบอกกับท่านว่าผมรู้แล้ว ต่อไปผมจะไม่หมิ่นเงินน้อยมีงานอะไรก็ได้ไป จากที่ผมไปไหว้พ่อแก่วันนั้น พอจากนั้นสองวันมีงานติดต่อเข้ามาเลย พี่เอ๋ ว่างไหมมาเล่นเรื่องนี้หน่อย เราคิดว่าคงได้เล่นรับเชิญ ตอนสองตอนเราก็อยู่ได้ เขาก็บอกว่าไม่นะ มาเล่นประจำ พอเขาบอกว่ามาเล่นประจำผมนี่หยุดนิ่งเลย แล้วเขาก็ถามว่าพี่เอ๋ เอาค่าตัวเท่าไหร่ ตอนนั้นผมบอกเลยเท่าไหร่ก็ได้ ไม่เกี่ยงแล้ว เป็นงานแรกที่ผมรับแล้วพอผมวางโทรศัพท์ ผมกอดเมียร้องไห้เลย

 

ถาม นั้นคือ จุดเริ่มต้นของการตั้งใจเอาธรรมะมาเผยแพร่ 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ใช่ครับ เราไม่ได้เอามาจากหนังสือเล่มไหน เราเอามาจากชีวิตตัวเองมาบอกมาเล่าล้วนๆ เพราะเราตื่นขึ้นมาแล้วเราดูเฟสบุ๊ค ทำไมเราคิ้มขมวด เจอข่าวตีพ่อแม่ ดูดยาโชว์ วัยรุ่นตีกันลงโซเชี่ยล 

เอ๋ เชิญยิ้ม :  คือ เรื่องร้ายๆเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นเยอะมาก เราอยากสะท้อน ในฐานะที่เราเป็นตลกคนหนึ่ง ในเฟสบุ๊คเราก็มีคนติดตามเป็นล้านๆ เราเอาธรรมะมาสอน ดีกว่าตลกๆไปวันๆ 

 

ถาม แล้วจากธรรมะมารายการผี ได้ยังไง 

เอ๋ เชิญยิ้ม : เพจสัปเหร่อเจอผี ผมได้ทำร่วมกับพี่เปิ้ล เพราะเขาเป็นสปอนเซอร์เจ้าแรกของผม เพราะช่วงแรกที่ผมทำเราต้องออกเองสำหรับเงินค่าถ่ายรายการ จนภรรยาบอกว่าพอเถอะ แต่ผมคิดว่าการที่เราทำแล้วมีคนดูเยอะๆสักวันสปอนเซอร์จะเข้าแล้ว เปิ้ล ก็เข้ามาครับ 

 

เปิ้ล : ตอนแรกจริงๆคือ ตอนแรกผมทำบริษัทขายปุ๋ย ยา เกี่ยวกับทางการเกษตรครับ ก็อยากจะโปรโมทบริษัท ก็มาบอกพี่เอ๋ ว่าไม่ต้องเอ่ยชื่อนะเพราะชื่อบริษัทมันอ่านยาก เราต้องการแค่โลโก้ไปติดไว้ในรายการก็พอ พี่เอ๋ แกก็แปลกใจ ผมก็ขอเขาไปดูที่เขาถ่ายรายการด้วย ผมเป็นคนไม่เชื่อ แกก็เลยให้ไปทำภาระกิจร่วมกัน แต่ก็ไม่เคยเจอนะครับ 

 

ถาม แล้วเปลี่ยนจากไม่เชื่อมาร่วมทำกับเขาได้ยังไง

เปิ้ล : คืองี้ครับ สิ่งที่ในโลกนี้อธิบายกับอธิบายไม่ได้ มันมี ไปจนเราหาเหตุผลและผลไม่ได้มันมีเหมือนกัน หรือ เหตุการณ์ที่เจอกับพี่เอ๋ โดนตรงเนี้ย เรื่องฟ้า เรื่องฝน เราถ่ายทำโดยที่เราอยู่ข้างนอกอ่ะครับ เราเลี่ยงไม่ได้เลย แต่พี่เอ๋ สามารถคุยได้ เรียกฟ้าเรียกฝนได้

เปิ้ล : ที่ได้เห็นกับตาเลยคือที่ บางบัวทอง ครับ ฝนตกเหมือนเป็นไข่ดาว ตกบริเวณที่เราถ่ายทำคือ ไม่มีฝนเลย แต่บริเวณรอบๆเราคือ ฝนตกหนักมาก แบบฟ้ารั่ว พี่เอ๋ แกบอกว่าแกขอแล้วก่อนที่แกจะเดินทางมาถึง จนเราถ่ายทำเรียบร้อยฝนตกโครมใหญ่เลย

 

ถาม ประเด็นดราม่า หากินกับผีรู้สึกยังไงบ้าง 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ผมก็ยอมรับนะ เพราะว่ามันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะว่าเราถ่ายเรื่องรางของเขา และมันก็มีสปอนเซอร์มา เพราะเราถ่ายพวกเขาแล้วมันมีคนกดไลฟ์ ยอดไลฟ์เยอะๆสปอนเซอร์ ก็เข้ามา 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตอนที่เราได้กลับมาทำงานในวงการ มีละครแต่ก็ถ่ายอยู่ 4 วัน เราว่าง 26 วัน เราเลยคิดว่าเราเอาเวลาว่างตรงนั้นสอนธรรมะคนดีกว่าโดยผ่านรายการผี แต่รายการผีก็ต้องสุดด้วยเพราะคนจะได้เข้ามาดูเยอะๆ และขนาดที่เขาดูผมก็จะสอนและแฝงธรรมะลงไปในสิ่งที่ถูกผิด โดยที่เขาไม่รู้ตัว 

 

ถาม สปอนเซอร์เข้าทุกวัน 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ใช่ครับ เข้าทุกวัน คือตอนแรกเราทำ อังคาร กับ เสาร์ ทีนี้เรา มีสปอนเซอร์ตัวใหม่เข้ามาเราก็ต้องเพิ่มรายการขึ้น ผมพูดได้เต็มปากเลยผมไม่ได้ไปล้มล้างความเชื่อใครนะ เพจของผมคือ เป็นเพจ พิสูจน์ มีคือไม่ ไม่มีคือ ไม่มี บางที่ที่เขาบอกว่ามีโน้นนี่ ผมไปมาไม่มีอะไรเลย และไม่มีสร้างสถานการณ์ใดๆด้วยครับ 

 

เปิ้ล : เราจะไม่มีสร้างสถานการณ์เลยครับ เพราะเป็นกฎเหล็กของเรา เราสร้างผีมาหลอกคนทั้งโลกไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมาลบล้างความเชื่อว่านี่คือ ผีเหรอ แต่ละคนไม่เคยเห็นผีถูกไหมเราไม่สามารถที่จะ มาบอกทุกคนว่าผีคืออะไร ไม่มีใครสามารถบอกใครได้ 

 

ถาม เคยมีผีตามกลับมาที่บ้านไหม 

เอ๋ เชิญยิ้ม : มีครับ ตั้งแต่ตอนเริ่มทำเพจเลย ตอนนั้นเปิ้ลก็เข้ามาแล้ว เราไปถ่ายแถวๆวัดสามโคก เขามีหลุมศพอยู่สามหลุม เราเป็นรายการผี เราก็ต้องหาอะไรที่น่ากลัว เราก็เลยคิดกันว่าเราจะถ่ายนี่แร่ะ สามหลุม คือ โดนยิงตาย จมน้ำตาย และก็ผู้หญิงผูกคอตายท้อง 7 เดือน ผมไปท่องคาถาปลุกผีด้วย คือ ผมไปขอสัปเหร่อ ว่าการมัดตราสัง ผมก็จะมีสาระว่าการมัเตราสัง สามเปราะคือ อะไร ในการถ่ายรายการของเรา เราเอาทีมงานเป็นเลยแล้วทำการมัดตราสัง ให้เห็นวิธีการเลย ผมไม่ได้เรียนมาแต่ผมไปสอบถามสัปเหร่อ ถึงวิธีการทำ และข้อมูลบทสวดมันสั้นๆไม่ยาว ผมไปนั่งท่องก่อนเข้ารายการ พอเลิกถ่าย เราต้องเป็นคนตัดสายสินที่เราผูก พอตัดปุ๊บ ตัวเราเริ่มชา แล้วผมก็หลอนตัวเองไม่รู้ว่ากลัวอะไร พอกลับบ้านเรานอนอยู่แล้วเราต้องตื่นมาแล้วเปิดไฟทั้งบ้านเลย เพราะเรากลัว แล้วพอเรานอนเราก็ฝันมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนมองผมด้วยความโกรธแค้น ผมไม่รู้ว่าเพราะผมเก็บไปฝันหรือเปล่า แต่ตอนนั้น ผมถ่ายมาร้อยกว่าเทปแล้ว ผมนอนแล้วตื่นขึ้นมาเห็นภรรยานอนมองผมอยู่เขาบอกว่าฝันไม่ดีเลยเห็นผู้หญิงยืนมองเขาอยู่ จากที่เราจิตตกอยู่แล้ว ที่นี่ไปกันใหญ่เหมือนคนบ้าเลย เพราะฝันดันตรงกับกับภรรยาเลย  ตอนเช้าผมไปวัดกับเปิ้ลเลย ไปหาหลวงพ่อ ท่านก็บอกเราว่าเล่นตัวแม่เลย ผมก็อาบน้ำมนต์ แล้วก็ฝังตระกุดเลย ภรรยาเราก็เตือนตลอดว่าพ่อพอเถอะสิ่งที่เรามองไม่เห็นอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ถ่ายละครก็พอแล้ว เราก็คิดว่าจะเลิกทำเพจล่ะ เราก็ไปขอขมาเขา จัดเครื่องไปขอขมาชุดใหญ่เลย พอเราทำเสร็จมันเย็นมันโล่ง ทำให้เราหายกลัว 

เอ๋ เชิญยิ้ม : ตอนนั้นเราคิดว่าเราจะเลิกทำเพจล่ะ แต่ก่อนจะเลิกเราได้ตั้งจิตอธิษฐานอีกครั้งด้วยการจุดธูป ถ้าท่านไม่ต้องการให้ผมมายุ่ง ท่านมาเข้าฝันบอกผม แล้วผมจะทิ้งเพจนี้ทันที แต่ถ้าการที่ผมทำเพจนี้ แล้วนำคำสอนของพระพุทธศาสนามาสอนคนเป็นสิ่งที่ท่านอยากให้ผมทำก็ขอให้งานเข้ามาเป็นการตอบว่าท่านอยากให้ผมทำ พอเราขึ้นรถมาคนติดต่องานมาเลย ผมกับทีมงานงงเลย และยังไม่ทันออกจากประตูวัดเลยก็มีอีกงานหนึ่งมา คือ ได้รับงานเต็มๆเลยทั้งอาทิตย์ที่ไม่ซ้ำกันด้วย เพราะพอเราขมาเรียบร้อยงานคือ ไหลเข้ามาเลย 

 

ถาม การที่เราเปิดเพจมาอีกสิ่งที่เราต้องการทำคือ เอ๋ ตั้งใจที่จะช่วยคนยากไร้ช่วยยังไงบ้าง 

เอ๋ เชิญยิ้ม : เริ่มจากที่เราทำเอง คือ เราไปเห็นคนยากจน ผมมีงาน พอมีเงินขึ้นมา เราเห็นอกเห็นใจคนไม่มีเงิน เพราะเราเคยจนมา ผมช่วยคือ ได้เท่ากำลังที่เรามี อย่าง ข้าวสาร 4-5 ถุง ปลากระป๋องที่ผมช่วยได้ แล้วก็มีคนเข้ามาขอวิวแชร์ เราก็เป็นตัวกลางที่ใครมีก็สามารถนำมาให้ได้ อย่างล่าสุด ไปที่โคราช ไปเจอน้องอยู่ 7 คน เขาอยู่กันในบ้านที่สังกะสี เราก็ยื่นมือไปช่วยโดยใช้เงินของตัวเอง ไปซ่อมบ้านทำให้ให้เขาพออยู่ได้ แต่พอมีผู้ใหญ่เห็นเขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วย ตอนนี้ น้องๆก็ได้บ้านหลังใหม่เลย 

เอ๋ เชิญยิ้ม : การที่ผมช่วยเหลือคนด้วยการโพสต์ในเพจ ก็จะโดนการทักหลายๆครั้ง ว่าการพูดของเรามันแรงเกินไป อาจจะไปกระทบหลายๆคนเข้า เราก็พยายามเข้าไปหา หรือ ใดๆ พอแต่มันก็แต่อวตาร เข้ามาทักเรา ผมจะบอกว่าการที่เราช่วยเหลือตรงนี้คบแล้วพอ พอแล้วก็ลบทิ้ง กันคนแชร์ไม่หยุด แล้วพอเงินมันไหลมามันเข้าใคร ผมพูดแบบนี้ประจำ แต่พอก็จะชี้แจ้งว่าเงินทุกบาทที่ทุกคนโอนมาเราเอาไปทำอะไรบ้าง ถึงชื่อเพจ จะชื่อว่า สัปเหร่อเจอผี แต่ก็เป็นเพจที่แฝงไปด้วยธรรมะ

 

 

ติดตามชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป : https://youtu.be/WyDRt0vO_-M

Comments

Share Tweet Line