โควิดทำอะไรไม่ได้ เกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว ออเดอร์ทะลัก เตรียมใช้วิกฤตพลิกชีวิตคนท้องถิ่น

โควิดทำอะไรไม่ได้ เกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว ออเดอร์ทะลัก เตรียมใช้วิกฤตพลิกชีวิตคนท้องถิ่น

วิกฤตการณ์โควิด 19 สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ภาคการเกษตร ที่หลายคนเชื่อว่า จะเป็นทางเลือกให้หลายคนกลับไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากสินค้าบางรายการเช่น ยางพารา ข้าวโพด และอ้อย ราคาตกต่ำต่อเนื่อง เนื่องจากราคาในตลาดโลกลดลงอย่างมาก ในขณะที่พืชผลในบางรายการกลับมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ แต่ก็มีปัญหาเรื่องสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการผลิต จึงต้องมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเพิ่มผลผลิตแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ให้กับเกษตรกร


สุนทร คมคาย ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านเขาไม้แก้ว เปิดเผยถึงประสบการณ์การทำเกษตรอินทรีย์ตลอดเกือบสิบที่ผ่านมาว่า หลังจากเรียกจบจากเกษตรฯ แม่โจ้ ก็คลุกคลีอยู่กับเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรมาโดยตลอด กระทั่งเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในหลายระลอก ตั้งแต่ระลอกแรก 2540 ระลอกที่สอง 2550 ทำให้มีคนว่างงานกลับถิ่นฐานบ้านเกิดหลายคน ตนเองก็คือหนึ่งในนั้น และเริ่มเห็นทางตันของการทำการเกษตรแบบพึ่งเคมี อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวในระยะแรก ๆ ยอมรับว่าไม่เชื่อว่าจะสามารถทำเกษตรอินทรีย์ได้ ด้วยข้อจำกัดที่หลากหลาย และการถูกกลืนด้วยการใช้เคมีเป็นวงกว้าง แต่ด้วยความมุมานะ ผนวกกับวิถีดั้งเดิม จึงสามารถปรับปรุงค่อยเป็นค่อยไป เกิดการรวมตัวของเกษตรกรที่ผลิตผักอินทรีย์ เพื่อสร้างงานและสร้างการเข้าถึงอาหารปลอดภัยให้กับชุมชนโดยการเกษตรในระบบเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน  ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่กว่า 30 ครัวเรือน ได้รับการรับรองมาตรฐานตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับสากล เช่น PGS, Organic Thailand, IFOAM, EU, CANADA มีผลผลิตหลักคือ ข้าว พืชผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูปด้านอาหาร จำหน่ายให้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ เลม่อนฟาร์ม และจำหน่ายในตลาดสีเขียวภายในจังหวัดปราจีนบุรี

อย่างไรก็ตาม สุนทร บอกว่า นับตั้งแต่โควิด 19 แพร่ระบาด ปริมาณการสั่งผักเกษตรอินทรีย์เพิ่มสูงขึ้นถึงสองเท่า รวมถึงไข่ไก่ ไข่เป็ดด้วย และด้วยมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาล ประกาศปิดตลาดเขียว เกษตรกรจึงต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มในการจำหน่ายเป็น ขายออนไลน์ตามออเดอร์ที่สั่งมา ซึ่งพบว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยอมรับว่า สภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลต่อพืชผักในตระกูลผักจีน เช่น กวางตุ้ง ผักบุ้งจีน มะระจีน ฯลฯ หรือที่เรียกว่า ผักใบทั้งหลาย ซึ่งเป็นพืชหลักที่ขายได้ทั้งปีนั้น บอบบาง เสียหายง่าย น้ำมากไปน้อยไปก็ไม่ได้ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด  

กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านเขาไม้แก้ว ได้รับการสนับสนุนระบบเกษตรอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทฟาร์ม จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า  โดยใช้ในระบบโรงเรือนเพื่อทำการควบคุมการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ในระบบปิด โดยการเปิด-ปิดระบบน้ำ และระบบการจ่ายปุ๋ยอัตโนมัติ ด้วยการสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งติดตามการทำงานของระบบ/การเจริญเติบโตของพืชผักผ่านกล้องวงจรปิดทั้งนี้เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในกระบวนการทำการผลิตพืชผักเกษตรอินทรีย์ ทำให้การดูแลแปลงเพาะปลูกมีความแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งเป็นการประหยัดเวลาของเกษตรกร และลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ราคาดี มีการจองล่วงหน้า มีลูกค้าที่แน่นอน

 

ปัญหาอีกอย่างของพื้นที่เขาไม้แก้ว ต่อการผลิตพืชผลทางการเกษตร คือ น้ำ ครอบครัวของตนจึงได้บริจาคที่ดินกว่า 10 ไร่ เพื่อขุดบ่อทำแหล่งน้ำ ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำในปริมาณที่มากเพียงพอที่ครอบคลุมเครือข่าย เพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยให้กับจังหวัดปราจีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่พัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นถิ่น และเปิดพื้นที่สุขภาพให้กับประเทศไทย ซึ่งได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับจังหวัดปราจีนบุรี และ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแล้ว 

 

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line