ผลวิจัยยืนยันสารระงับเชื้อในจมูกและช่องปาก Halodine® ฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว

บริษัท Veloce BioPharma LLC รายงานว่า ผลิตภัณฑ์ Halodine® Antiseptics ของบริษัท มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว โดย Halodine® เป็นสารระงับเชื้อกลุ่มโพวิโดนไอโอดีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับแพทย์ชั้นนำ สามารถใช้ฆ่าเชื้อในจมูกและช่องปากเป็นประจำ ทั้งนี้ จากการทดลองร่วมกับสถาบันวิจัยยาต้านไวรัสแห่งมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตทในห้องปฏิบัติการ BSL3+ พบว่า ผลิตภัณฑ์ Halodine® Nasal and Oral Antiseptics มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ SARS-CoV-2 ได้อย่างรวดเร็ว และยังคงมีประสิทธิภาพแม้ถูกทำให้เจือจางเหลือเพียง 1/20 ของสูตรที่วางจำหน่าย 

“ผลวิจัยบ่งชี้ว่าสารระงับเชื้อในจมูกและช่องปากสามารถฆ่าเชื้อ SARS-CoV-2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Halodine® เป็นสารระงับเชื้อกลุ่มไอโอดีนตัวแรกที่แสดงให้เห็นถึงการต้านเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19” Dr. Jesse Pelletier หัวหน้านักวิจัยจาก Ocean Ophthalmology Group (เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา) กล่าว “เมื่อได้ข้อพิสูจน์แล้วว่าโพวิโดนไอโอดีนที่ปลอดภัยต่อเยื่อบุผิว มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ SARS-CoV-2 เราก็สามารถนำไปใช้ลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้” ทั้งนี้ Dr. Pelletier เป็นผู้นำในการวางแนวทางปฏิบัติเพื่อการกลับไปทำงานอย่างปลอดภัยสำหรับจักษุคลินิกผู้ป่วยนอกและศูนย์ผ่าตัดผู้ป่วยนอก

Halodine ® และโควิด-19

Halodine® เป็นสารระงับเชื้อกลุ่มโพวิโดนไอโอดีนที่ไม่ทำอันตรายต่อเยื่อบุผิว สามารถใช้กับจมูกและช่องปากเป็นประจำอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ จมูกและช่องปากเป็นแหล่งสะสมของไวรัสและก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโดยฉพาะในสถานพยาบาล โดยละอองฝอยและหยดของเหลวจากจมูกและทางเดินหายใจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19

ละอองฝอยและหยดของเหลวที่มีไวรัสสามารถแพร่เชื้อได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง หน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อแต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ ขณะที่สารระงับเชื้อในจมูกและช่องปากสามารถฆ่าเชื้อและลดการแพร่เชื้อได้ โดย Dr. Pelletier เน้นย้ำว่า “การใช้สารระงับเชื้อในจมูกและช่องปากมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดการแพร่เชื้อควบคู่กับการใช้หน้ากากอนามัย เช่นเดียวกับการล้างมือควบคู่กับการสวมถุงมือ”

“ยังมีอีกหลายอย่างที่เรากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และพฤติกรรมของมัน” นายแพทย์ Samuel Barone ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของ Veloce BioPharma กล่าว “เราวิจัยเกี่ยวกับการใช้ยาต้านไวรัสกลุ่มไอโอโดฟอร์ในแวดวงผิวหนังวิทยาและจักษุวิทยามาหลายปีแล้ว และโครงการวิจัย Halodine® Antiseptics ก็เป็นผลพวงจากประสบการณ์ดังกล่าว เรารู้สึกมีกำลังใจมากเมื่อผลวิจัยแสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกถึงประสิทธิภาพในการต้านไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19”