จอย รินลณี เกิดอะไรขึ้น! เคยคิดมีลูกแบบไม่มีสามี

จอย รินลณี เกิดอะไรขึ้น! เคยคิดมีลูกแบบไม่มีสามี

จอย รินลณี บอกช่วงโควิด19 ที่ผ่านมาเหมือนซ้อมเกษียน รับมีวางแผนเรื่องเกษียนตอนแก่ไว้ เก็บเงินไว้พร้อมอยู่ได้แล้ว เพราะเป็นคนชอบวางแผนตั้งแต่เด็ก ขำๆบอกยังคงรับงานอยู่ แย้มมีมองที่ต่างจังหวัดไว้แต่ยังไม่ได้ซื้อกำลังดู ลั่นยังไม่เห็นภาพคู่ชีวิตในแผนของอนาคตที่วางไว้ มีแต่เรื่องของครอบครัว ยังไม่ได้ปิดใจถ้ามีก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่มี รับเคยคิดอยากมีลูกแบบไม่มีสามีจนถึงขั้นไปตรวจไข่ คุณหมอบอกแข็งแรง แต่ยังไม่คิดฝากไข่อาจะพราะตนยังไม่ได้อยากมีขนาดนั้น


 

เป็นอีกหนึ่งสาวที่ครองตัวเป็นโสดมานานและไม่ได้มีข่าวคราวกับหนุ่มๆให้เราได้เห็นกันเลย สำหรับสาวจอย รินลณี  ล่าสุดมีโอกาสได้เจอเจ้าตัวเลยได้ขอให้อัปเดทเรื่องหัวใจกันสักหน่อย ว่าตอนนี้หัวใจเป็นสีอะไร พร้อมถามถึงช่วงโควิทที่ผ่านมาว่าเจ้าได้ไปทำอะไรมาบ้าง ก่อนที่จะได้กลับมารับงานอีกครั้งในรอบหลายเดือน

“หยุดนานมาก ช่วงโควิด-19 รู้สึกตื่นเต้นเลยนะ ก่อนขึ้นเวทีเพราะมันไม่ได้ขึ้นนานแล้ว สัก 2-3 เดือนได้ค่ะ เป็นงานแรกในรอบ 3 เดือน ที่ออกมาสาธารณะชนค่ะ ตอนไปถ่ายรายการ ถ่ายละครวันแรก มันเหมือนเปิดเทอมจริงๆ ทุกอย่างมันจะฝืดนิดหนึ่ง เหมือนเราหยุดไปนาน สมองมันก็จะไม่ค่อยไปเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็น New normal จริงๆ ที่ทุกคนนั่งเว้นระยะห่างกัน เป็นบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อนค่ะ การกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งคือต้องพยายามสติดีๆ ค่ะ พยายามดูแล้วดูอีก แต่ม้นก็ยังมีผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็รู้สึกว่าทุกอย่าง ถ้าเราหยุดไปนานๆ มันก็จะต้องสตาร์ใหม้ ต้องพยายามให้มีเอเนอร์จี้ เหมือนเด็กปิดเทอมนานๆ อะ ตอนแรกๆ มาทำงานก็จะแบบโอ๊ย แต่ตอนนี้ก็เริ่มอยู่ตัวค่ะ เพราะอย่างละครเองก็ถ่ายมาร่วมเดือนแล้วเหมือนกัน ช่วงที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าเป็นช่วงพักผ่อนของชีวิต เพราะว่าเราทำงานมา ก็ไม่ค่อยมีเวลาได้หยุดแบบนี้ มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว มันก็เหมือนเป็นช่วงเบรก เป็นการซ้อมก่อนรีไทน์ค่ะ เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราอายุ 60 -70 ทุกคนต้องมีภาวะนี้ ที่แบบไม่ต้องทำงาน ทุกคนต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ว่าอันนี้เป็นการซ้อมให้เราได้รู้ ว่าถ้าไม่ได้ทำงานแล้วชีวิตเราจะเป็นแบบนี้นะ มันก็เหมือนเป็นการให้ทุกคนได้ซ้อมหารใช้ชีวิตในอนาคตที่มันจะเกิดขึ้นค่ะ ตอนอยู่แรกก็มีความรู้สึกร้อนรนมาก คือแค่วนอยู่ในซอยบ้านอะ แต่ด้วยความที่ปกติออกงานทุกวันไม่เคยอยู่บ้าน แต่อันนี้คือเราอยู่ตลอด ไปไหนไม่ได้ แค่วนรถเราก็รู้สึกดีแล้ว ว่าเราได้ออกจากบ้าน แต่พอผ่านไปสักพักหนึ่ง เอาจริงๆ เราเริ่มอยู่กับมันได้ รู้สึกว่าเรามีความสุขในแบบของเราได้ คือเรารู้ว่าจริงๆแล้วเราได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวเยอะขึ้น ได้มีเวลาทำในสิ่งที่เราไม่ค่อยได้ทำ ได้ออกกำลังกาย ได้ทำอาหาร ได้พูดคุยกับแม่ ได้อยู่กับแม่ทั้งวันเลย ก็มีความรู้สึกว่าจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกค่ะ แต่เราก็ต้องหาข้อดีในเรื่องแย่ๆ เรื่องความคิดอยากจะรีไทนม์คือเริ่มรู้สึกตั้งๆ แรกๆ ของการหยุดพักเลยค่ะ ด้วยความที่มันไม่เคยหยุด แล้วเรารู้สึกว่าแบบเราเคยคิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำงานแล้ว เราจะรู้สึกยังไง เรารู้สึกแบบนั้น แล้วพอถึงวันที่เป็นโควิด-19 เราก็เข้าใจแล้ว ว่าชีวิตบั้นปลายของเราจะเป็นยังไง เราควรจะเตรียมความพร้อม จอยว่าจริงๆ คือการคุมสติ ให้ทุกคนกลับมามองว่าเราต้องเตรียมเงินให้พร้อม เราต้องหากิจกรรมอะไรที่เราทำ ไม่ใช่อยู่ไปเฉยๆ พอไม่ทำอะไรเลย ให้อยู่บ้านนั่งดูซีรีส์ กินข้าวทั้งวันจริงๆ มันก็จะถอยไปเรื่อยๆ ทั้งสมองและร่างกาย มันต้องมีการทำอะไรที่เรายังใช้เอเนอร์จี้อยู่ค่ะ ที่บอกว่าควรเตรียมเงินให้พร้อม ก็คือเรามีความรู้สึกว่า เราจะต้องมีเงินให้พร้อม เพราะหลายๆ คนมีปัญหา เพราะไม่ได้เตรียมเรื่องของการเงิน ทุกคนจะใช้ชีวิตแบบแฮปปี้ ไม่ได้เผื่อว่าถ้าเราไม่มีรายได้สัก 2-3 เดือน จะเป็นยังไง อันนี้มันทำให้เราได้คิด แต่ถ้าตัวจอย จอยเป็นคนวางแผน ในเรื่องนี้จอยซีเรียส ตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าเราเซฟ แล้วต่อไปเราสามารถเป็นคนแก่ที่มีชีวิตที่โอเคอยู่ได้ แต่มันทำให้เราได้มองว่า หลายๆ คนเดือดร้อน เขาเดือดร้อนเพราะว่าไม่ได้เตรียมในจุดนี้ ว่าวันหนึ่งมันอาจจะไม่มีรายได้เข้ามา 3 เดือนนะ หลังจากนี้ถ้าเราเกษียณไป เราสามารถอยู่ได้ค่ะ พร้อม แต่ไม่ได้หมายถึงว่ามีเยอะ แต่ว่าเราเตรียมพร้อมมาตั้งแต่เด็กๆ คือจอยไม่ได้เป็นคนแบบซื้อแบรนด์เนม เรารู้สึกว่าเราเก็บเงินเราไปลงทุนต่อยอด ทั้งงานที่เราทำ เราก็ได้เงิน เราก็เอาเงินไปต่อยอดด้วยการลงทุน เราจะบริหารเงินของเรา ว่าอายุสัก 85 เราจะใช้เงินเท่าไหร่ เราคิดแบบนี้ตั้วแต่เราเริ่มทำงานวันแรก แล้วก็รู้สึกว่าตอนนี้เราก็พร้อมนะ แต่เราก็ยังทำงานอยู่ค่ะ อย่าเลิกจ้างนะคะ ยังทำอยู่ค่ะ เรื่องเกษียณเราวางแผนมาตลอด แล้วก็เริ่มดูที่ต่างจังหวัด เราอยากอยู่ต่างจังหวัด เป็นคนชอบธรรมชาติ ว่างเราก็เริ่มดูที่ อยากจะอยู่ที่ไหน แปลนชีวิตเรายังไงในอนาคต ตอนนี้ก็ดูอยู่หลายที่ อยากจะเป็นแบบเขาๆที่สามารถปลูกผักปลูกหญ้าได้ อยากจะมีฟาร์มออแกนิกของตัวเอง เลี้ยงสัตว์ คือรู้สึกว่าอยากมีของกินเป็นของตัวเอง ในช่วงโควิด-19 เราอิจฉาคนต่างจังหวัดมาก เพราะเราเป็นคนกรุงเทพ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นอะ คนกรุงเทพอดตายนะ เพราะกรุงเทพไม่มีอะไรเลย ต่างจังหวัดเขาเก็บผักเก็บหญ้า อยู่ในน้ำก็สามารถหาของกินได้ เรารู้สึกว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องมี”

ส่วนเรื่องแพลนเกี่ยวกับชีวิตคู่สาวจอยเผยว่า “ไม่เคยวางแผนเรื่องคู่ชีวิตเลย คือเราต้องเอาตัวเราให้รอดเป็นหลักก่อน แล้วเราก็อุ้มคนในครอบครัวเราให้ได้ อีกคนหนึ่งที่จะเข้ามามันแล้วแต่ มันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง เรื่องคู่ไม่เคยหวังเลยอะสิ ก็เลยไม่รู้ว่ามีหวังไหม ไม่เคยมองว่าจะต้องมีคู่ชีวิตหรืออะไร คือการแพลนของเราไม่เคยมีใครอีกคนหนึ่งเลย เราแพลนแค่เรา พี่สาว คุณแม่ เราไม่เคยแพลนนอกเหนือจากนี้เลย แพลนบีก็ไม่มี แพลนบีคือแพลนที่แล้วแต่ เราปล่อยเป็น ว่างๆ ไว้ เรามีแค่แพลนเอ แพลนบีมันจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันค่ะยังเปิดใจนะคะ แต่ก็ไม่ได้มีใคร ไม่ได้แพลนเรื่องนี้จริงๆ คือถ้าเข้ามาแล้วรู้สึกว่าคุยกันโอเค แต่เราไม่ได้ว่าอยากมีจังเลย เราไม่เคยมีภาพในอนาคตเป็นเรื่องของใคร ที่ผ่านมาก็มีไม่มีเข้ามาโควิดก็อยู่บ้าน เราอยู่ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็กจนทุกวันนี้ค่ะ แล้วก็ในอนาคต เราก็ต้องอยู่ได้อยู่แล้วค่ะ ถามว่าการอยู่คนเดียว มีความสุขอย่างไรบ้าง คือความสุขของเรา มันไม่จำเป็นต้องเกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง ความสุขของเราก็คือเกิดจากเรา ความสุขที่เรามีกับครอบครัว เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนขี้เหงา เราชอบหากิจกรรมอะไรทำ แล้วก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่น เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นจากตัวเราเองค่ะ ไม่โหยหาค่ะ แต่ถ้ามีก็โอเค (หัวเราะ) แต่ตอนนี้โสดมากค่ะ เรื่องลูกคือไม่ได้อยากมีสามีนะ แต่เคยแอบมีความคิดว่าอยากมีลูก คือเอาจริงๆ แอบไปเช็กไข่นะ ด้วยความที่เราคุยกับน้องจ๊ะ น้องเอินตลอด เขาก็จะทำเรื่องพวกนี้ เขากำลังพยายาม เราก็อยากรู้ว่าเรายังสามารถมีลูกได้อยู่หรือเปล่า เราก็ไปเช็กไข่มา หมอบอกว่าสมบูรณ์มาก สามารถมีได้ แต่เราก็ยังไม่มีความคิดจะเก็บไข่ คือถ้าคนอยากจะมีลูก เขาก็จะมีความคิดว่าจะเก็บไข่ดีไหม เผื่ออนาคต แต่ทุกวันนี้เราก็ยังไม่เก็บ เหมือนเราไม่ได้อยากมีขนาดนั้น เราไปเช็กว่ามีไข่เยอะมาก ที่สามารถเก็บได้ แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจว่าเราก็ไม่ได้อยากเก็บ เรายังถามว่าแบบไม่ได้อยากท้อง ให้พี่สาวท้องได้ไหม หมอก็บอกว่าพี่สาวแก่ไป ก็คือไม่อยากท้องเองอีก เลยรู้สึกว่าเราก็คงไม่ได้อยากมีลูกจริงๆ มั้ง เพราะขนาดท้องยังไม่อยากท้องเองเลย เราก็อาจจะยังไม่ได้มีความเป็นแม่ ที่รู้สึกว่าฉันอยากมีลูกในอนาคตนะ คือมาแอบคิดค่ะ แต่ก็ยังไม่ลงมือทำ”

REALATED NEWS

Comments

Share Tweet Line