บีซีจีโมเดล ยั่งยืนจากฐานราก ฝ่าวิกฤตโควิด “เราจะสู้ไปด้วยกัน”
ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทวีความรุนแรง สร้างความเสียหาย ขยายวงสร้างผลกระทบไปทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทย แม้สถานการณ์จะผ่อนคลายลงบ้าง แต่ก็ยังไม่อยู่ในภาวะที่ทุกคนจะวางใจ ตราบใดที่วัคซีนยังไม่มา ยายังไม่มี วิถีชีวิตในแต่ละวัน จึงยังคงต้องระแวด ระวัง เงี่ยหูฟังมาตรการจากรัฐบาล ที่จะให้ประชาชนสู้ไปด้วยกันในรูปแบบไหน
สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช) ก็เป็นแม่งานใหญ่ระดมมันสมองระดับกูรูแถวหน้าของเมืองไทย เพื่อสกัดแนวคิดหาหนทางฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยการนำองค์ความรู้และบุคลากรด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) มาช่วยชาติในภาวะวิกฤต และได้ถกกันมาถึง 3 รอบ ตกผลึกแพคเกจ ที่ต้องเร่งขับเคลื่อนเป็นมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือประชาชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
หนี่งในประเด็นที่พูดถึงกันมากที่สุดคือ การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม ประชาชนไม่มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย มาตรการการเยียวยาด้วยเงิน 5,000 บาทนั้นเป็นมาตรการระยะสั้น หากในช่องของการผ่อนปรน มีการระบาดซ้ำรอบสอง รัฐบาลจะไม่มีเงินพอที่จะมาจ่ายให้กับประชาชนอีก หนี้ภาครัฐจะเพิ่มพูน ภาคครัวเรือนจะเพิ่มขึ้น และจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจอย่างน่ากังวล
มีการพูดถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าจะเป็นทางรอดของประเทศ ในภาวะที่โลกจะเกิดวิกฤตอาหาร แต่ประเทศไทยยังมีทรัพยากรที่เพียงพอ หากมีการบริหารจัดการ และปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรดั้งเดิม เป็นเกษตรอินทรีย์ โดยใช้องค์ความรู้ ออวน. เข้าไปช่วย เพื่อเพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิตอย่างยั่งยืน ปรับการท่องเที่ยวแบบเดิม ที่ไม่มีทางเหมือนเดิม เป็นท่องเที่ยวในรูปแบบอัตตลักษณ์ใหม่ คือเชิงสุขภาพ โดยเปลี่ยนโรงแรม เป็นโรงพยาบาลเพื่อสุขภาพ เชื่อมต่อกับการพัฒนาชุมชน กระเพื่อมจากท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามา
ในรูปแบบดังกล่าว ทำให้นึกถึง “สามพรานโมเดล” ที่โรงแรมสามพราน ได้สนับสนุนให้เกษตรกรในนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง หันมาทำหันมาทำเกษตรอินทรีย์ภายใต้โครงการ สามพรานโมเดล เมื่อปี 2553 ก่อนหน้านั้นเกษตรกรส่วนใหญ่ขายผลผลิตผ่านพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นผู้กำหนดราคา ในขณะเดียวกัน เกษตรกรไม่สามารถควบคุมต้นทุนที่สูงขึ้นตามราคาสารเคมีได้ ทำให้มีปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น สุขภาพและสิ่งแวดล้อมก็เสื่อมโทรมลง เกษตรกรส่วนใหญ่ติดอยู่ในวงจรแบบนี้มาทั้งชีวิต และไม่เฉพาะที่สามพรานเท่านั้น เกษตรกรทั่วประเทศก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน แม้วิกฤตเวลานั้น (วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์) จะไม่ร้ายแรงเหมือนครั้ง แต่ในวิถีการสู่กับปัญหา ถึงเวลาที่เราต้องกลับมาดู นอกจากนี้สามพรานโมเดล ยังเป็นต้นแบบของการเป็นแหล่งเรียนรู้ของโลก ในแต่ละปีจะมีสถาบันชั้นนำจากหลากหลายประเทศมาเรียนรู้ดูงาน ที่สานต่อแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงแบบลงลึกถึงแก่นแท้ของความยั่งยืน
คุณชรินทร์ ช่วยประดิษฐ์ Senior Sales Manager ของสวนสามพราน เล่าให้ฟังว่า คุณอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ผู้ริเริ่มขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เมื่อปี 2553 โดยการสร้างเครือข่ายระหว่างเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักผลไม้และวัตถุดิบทางการเกษตร ร่วมกับโรงแรมสวนสามพราน เกษตรกรมีหน้าที่ส่งสินค้าให้กับโรงแรมเป็นหลัก โดยทั้งสองฝ่ายยืนอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืน เป็นการค้าที่เป็นธรรม โดยต่างฝายต่างไม่ขาดทุน โรงแรมได้วัตถุดิบออร์แกนิกที่ดีและปลอดภัยในราคาที่ใกล้เคียง เมื่อเทียบกับซื้อผักเคมี ส่วนชาวบ้านก็สามารถกำหนดราคาที่ตัวเองพอใจได้ โครงการสามพรานโมเดล จะหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับเกษตรกร เป็นการเชื่อมตรงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค ผ่านห่วงโซ่คุณค่าเกษตรอินทรีย์บนพื้นฐานของธุรกิจที่เป็นธรรม ในช่วงก่อนวิกฤตโควิด มีช่องทางการตลาดมี ตลาดสุขใจ ตลาดสุขใจสัญจร โมเดิร์นเทรด สวนสามพราน โรงแรมในกรุงเทพฯ ศูนย์ประชุม และเว็บไซต์ Sookjai Organics
ในสถานการณ์โควิด 19 สามพรานโมเดล เปิดแอพ “Thai Organic Platform” ช่วยเกษตรกรอินทรีย์ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ให้ผู้บริโภคช็อปสินค้าออร์แกนิกออนไลน์ ตรงจากกลุ่มเกษตรกรจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงวัตถุดิบอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยมั่นใจได้ถึงมาตรฐานการผลิตที่ไม่มีการใช้สารเคมี หรือใช้ยาฆ่าแมลง และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์และสามพรานโมเดล จึงได้ร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่น “Thai Organic Platform” เพื่อให้ผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ได้เริ่มใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้ ในการพรีออเดอร์ข้าวพืชผัก ผลไม้อินทรีย์ และสินค้าอินทรีย์แปรรูป หลังจากที่ทำมาได้ 3 สัปดาห์เสียงตอบรับดี ในส่วนของตลาดสุขใจเองก็ยังมีเปิดให้บริการทุกวัน ในรูปแบบ Drive-Thru”
สำหรับ สามพรานโมเดล คือหนึ่งในเครือข่าย BCG ที่ สอวช.เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ เป็นโครงการที่สามารถตอบโจทย์ในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พลังที่แท้จริงของการขับเคลื่อนในรูปแบบบีซีจี ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นพลังของมหาวิทยาลัย เอกชน ชุมชน และเครือข่ายต่างประเทศ
ในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ เครือข่าย BCG ที่มีอยู่ทั่วประเทศ จะเป็นขุมกำลังสำคัญของชาติ ที่จะช่วยกู้วิกตนี้ได้อย่างยั่งยืน แบบสู้ไปด้วยกัน ด้วยวิถีไทย นำใจคนไทย และพลังคนไทย ที่ไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก
Comments